การประเมินระบบการควบคุมภายใน เป็นการพิจารณาถึงผลสัมฤทธิ์ของระบบการควบคุมภายในที่มีอยู่ในหน่วยงาน โดยการเปรียบเทียบผลการปฏิบัติงานกับระบบการควบคุมภายในที่กำหนดไว้ว่ามีความสอดคล้องหรือไม่เพียงใด และสอบทานระบบการควบคุมภายในของหน่วยงานว่ายังมีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในปัจจุบันหรือไม่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริหารว่าการดำเนินงานของหน่วยงานเป็นไปตามระบบการควบคุมภายในที่วางไว้ และทำให้เกิดแนวทางในการปรับปรุงระบบการควบคุมภายในให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

วัตถุประสงค์ของการประเมินระบบการควบคุมภายใน

  1. เพื่อให้ทราบว่าระบบการควบคุมภายในที่มีอยู่สามารถป้องกันหรือลดความเสี่ยงได้หรือไม่อย่างไร
  2. เพื่อให้ทราบว่าการปฏิบัติงานตามระบบการควบคุมภายในที่กำหนด ได้ผลสำเร็จตามเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และคุ้มค่าหรือไม่เพียงใด
  3. เพื่อให้มีการปรับปรุงหรือแก้ไขระบบการควบคุมภายในได้อย่างเหมาะสม ทันเวลาและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

[vc_gallery interval=”3″ images=”879,883,862″ img_size=”180×150″ onclick=””]

ประโยชน์ที่ได้รับจากการประเมินระบบการควบคุมภายใน

  1. ทำให้ผู้บริหารได้รับทราบผลสัมฤทธิ์การดำเนินงานของหน่วยงาน และเป็นข้อมูลประกอบในการตัดสินใจเพื่อวางแผนและพัฒนาการดำเนินงานของหน่วยงาน
  2. สนับสนุนผู้บริหารเกี่ยวกับแนวทางในการปรับปรุงระบบการควบคุมภายในของหน่วยงานให้มีความเหมาะสม
  3. กระตุ้นและส่งเสริมให้บุคลากรในหน่วยงานมีการปฏิบัติงานตามระบบการควบคุมภายในที่วางไว้
  4. ทำให้มีการใช้ทรัพยากรของหน่วยงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดและคุ้มค่า
  5. ส่งเสริมการปฏิบัติงานตรวจสอบของผู้ตรวจสอบภายใน โดยการนำผลที่ได้จากการประเมินระบบการควบคุมภายในของหน่วยงาน มาเป็นปัจจัยหนึ่งประกอบการประเมินความเสี่ยงเพื่อวางแผนการตรวจสอบ และการกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานตรวจสอบต่อไป

รูปแบบของการประเมิน

1. การประเมินด้วยตนเอง (Control Self Assessment)

เป็นรูปแบบการประเมินในลักษณะความร่วมมือกันระหว่างผู้บริหารกับผู้ปฏิบัติงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการปฏิบัติงานตามระบบการควบคุมภายในที่วางไว้ ซึ่งจะทำให้ผู้บริหารสามารถค้นพบปัญหาหรือข้อบกพร่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการปฏิบัติงานได้รวดเร็วและเพียงพอที่จะช่วยป้องกันหรือลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ทันเวลา

2. การประเมินอย่างเป็นอิสระ

เป็นรูปแบบการประเมินโดยผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกำหนดมาตรการหรือออกแบบระบบการควบคุมภายในของหน่วยงาน เช่น ผู้ตรวจสอบภายใน ผู้ตรวจสอบภายนอก ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับมอบหมาย เป็นต้น ซึ่งการประเมินรูปแบบนี้จะเป็นการสร้างความมั่นใจให้ผู้บริหารว่าการประเมินระบบการควบคุมภายในได้ดำเนินการไปอย่างเที่ยงธรรม

ทั้งนี้ การประเมินระบบการควบคุมภายในด้วยตนเองและการประเมินระบบการควบคุมภายในอย่างเป็นอิสระต่างมีความสำคัญ ดังนั้น จึงควรจัดให้มีการประเมินทั้งสองรูปแบบดังกล่าวควบคู่ไปด้วยกัน เพื่อช่วยเสริมส่วนที่บกพร่องหรือเป็นข้อจำกัดในแต่ละรูปแบบ อันจะทำให้การประเมินระบบการควบคุมภายในของหน่วยงานมีความสมบูรณ์ครบถ้วนยิ่งขึ้น

ขอบเขตและความถี่ในการประเมิน

1. ขอบเขตการประเมิน

ผู้ประเมินควรประเมินระบบการควบคุมภายในทุกกิจกรรมการควบคุมตามระบบการควบคุมภายในที่หน่วยงานกำหนดขึ้น แต่หากในกรณีที่หน่วยงานมีการจัดระบบการควบคุมภายในไว้หลายกิจกรรม และอาจมีข้อจำกัดบางประการในการดำเนินงาน เช่น จำนวนผู้ประเมิน ค่าใช้จ่ายในการประเมิน เป็นต้น ผู้ประเมินอาจต้องใช้วิธีการเลือกประเด็นในการประเมินโดยพิจารณาจาก

  1. ผลการประเมินความเสี่ยงจากการจัดวางระบบการควบคุมภายใน
  2. กิจกรรมการควบคุมที่ผู้บริหารให้ความสำคัญ
  3. ความสำคัญตามภารกิจหลักและกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญซึ่งมีผลกระทบต่อการดำเนินงานของหน่วยงานโดยรวม

2. ความถี่ในการประเมิน

การประเมินระบบการควบคุมภายในควรพิจารณาถึงความถี่หรือโอกาสในการประเมินประกอบกันด้วย กล่าวคือ

  1. กิจกรรมการควบคุมสำหรับด้านหรืองานที่มีระดับความเสี่ยงสูง จะมีความถี่หรือโอกาสในการประเมินได้มากหรือบ่อยครั้งกว่ากิจกรรมการควบคุมสำหรับด้านหรืองานที่มีระดับความเสี่ยงต่ำกว่า
  2. กิจกรรมการควบคุมเฉพาะด้านหรือเฉพาะงานใดงานหนึ่ง จะมีความถี่หรือโอกาสในการประเมินได้มากหรือบ่อยครั้งกว่ากิจกรรมการควบคุมโดยรวมของหน่วยงาน เนื่องจากการประเมินกิจกรรมการควบคุมโดยรวมของหน่วยงานมักจะประเมินก็ต่อเมื่อหน่วยงานมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญและมีผลกระทบต่อการดำเนินงานของหน่วยงาน

หลักฐานในการประเมิน

ผู้ประเมินจะต้องมีการรวบรวมข้อเท็จจริงต่างๆ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการสรุปผลการประเมินและเป็นหลักฐานอ้างอิงในภายหลัง โดยควรเลือกใช้เทคนิคหรือวิธีที่เหมาะสมในการรวบรวมหลักฐานที่ดีที่สุด   โดยคำนึงถึงระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการรวบรวมหลักฐานให้น้อยที่สุด เพื่อให้การประเมินระบบการควบคุมภายในมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด

วิธีการประเมินระบบการควบคุมภายใน

ผลการประเมินที่ได้ ผู้ประเมินสามารถนำมาสรุปผลการประเมินได้ ดังนี้

  1. หากผลการประเมินมีคะแนนที่สูงหรือมีระดับคะแนนโดยเฉลี่ยมาก แสดงว่าหน่วยงานหรือระบบงานนั้นๆ มีระบบการควบคุมภายในที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงการจัดการและกำกับดูแลกิจการที่ดีของหน่วยงาน
  2. หากผลการประเมินมีคะแนนที่ต่ำหรือมีระดับคะแนนโดยเฉลี่ยน้อย แสดงว่าหน่วยงานหรือระบบงานนั้นๆ มีระบบการควบคุมภายในที่ไม่ดี และควรที่จะได้รับการปรับปรุงหรือแก้ไขระบบการควบคุมภายในที่มีอยู่ให้มีประสิทธิผล ประสิทธิภาพ และรัดกุมเพิ่มมากขึ้น

แบบประเมินระบบการควบคุมภายใน

1. แบบประเมินระบบการควบคุมภายในตามหน้าที่งาน

• แบบประเมินระบบการควบคุมภายในของ
วงจรรายได้

• แบบประเมินระบบการควบคุมภายในของ
วงจรรายจ่าย

control-panel-256-2-

• แบบประเมินระบบการควบคุมภายในของ
วงจรทรัพย์สิน

Office-clip-art-free-clipart-images

• แบบประเมินระบบการควบคุมภายในของ
วงจรหนี้สิน

• แบบประเมินระบบการควบคุมภายในของ
วงจรส่วนของทุน

2. แบบประเมินระบบการควบคุมภายในของหน่วยงาน

• แบบประเมินระบบการควบคุมภายใน
- การจัดซื้อจัดจ้าง

• แบบประเมินระบบการควบคุมภายใน
- การบริหารวัสดุ

• แบบประเมินระบบการควบคุมภายใน
- การผลิต

• แบบประเมินระบบการควบคุมภายใน
- การบริหารสินค้าคงเหลือ

• แบบประเมินระบบการควบคุมภายใน
- การบัญชี

• แบบประเมินระบบการควบคุมภายใน
- การเงิน

• แบบประเมินระบบการควบคุมภายใน
- การบริหารทรัพยากรบุคคล

• แบบประเมินระบบการควบคุมภายใน
- เทคโนโลยีสารสนเทศ

• แบบประเมินระบบการควบคุมภายใน
- งานบริหาร

[powr-hit-counter id=f04713d8_1489652769]